all gundam
โมบิลสูทกันดั้ม gundam first
เนื้อเรื่อง
ปีศักราชอวกาศ 0079 สงครามระหว่างเอิร์ธนอยด์กับสเปซนอยด์ที่เกิดขึ้นจากการปลดแอกของชาวโคโลนีไซด์ 3 ซึ่งใช้ชื่อว่า ซีออน กองทัพโลกหรือทางกองทัพสหพันธ์ซึ่งเสียเปรียบอยู่เนื่องจากทางซีออนได้คิดอาวุธรุ่นใหม่ขึ้นมา อาวุธที่มีรูปแบบมาจากมนุษย์เรียกว่าโมบิลสูททำให้ทางซีออน นั้นได้เปรียบทางสหพันธ์โลกเป็นอย่างมากในยุทธศาสตร์ทางสงคราม ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่าอนุภาคไมนอฟสกี้ ที่ทำให้สงครามนั้นยืดเยื้อขึ้น และที่สุดกองทัพโลกก็ได้คิดค้น โมบิลสูท รุ่นใหม่ขึ้นซึ่งเรียกว่า กันดั้ม... บทเริ่มต้นจุดจบของของสงคราม1ปี
อามุโร่ เรย์ เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในไซด์ 7 ได้ขึ้นบังคับกันดั้ม [RX-78-2] ในครั้งที่ซีออนบุกมาโจมคีไซด์7 ทั้งที่ขึ้นขับเป็นครั้งแรก ก็สามารถทำลายแซค[zaku] ของซีออนได้ถึง2เครื่อง หลังจากนั้นอามุโร่ก็ได้เข้าประจำการ และเป็นกำลังสำคัญให้กับกองทัพโลก ทางซีออนเองก็มีชาร์ อัสนาเบิลฉายาดาวหางสีแดง เป็นกำลังสำคัญเช่นกัน ในตอนท้ายของสงคราม ราร่า คนรักของชาร์ และหญิงที่อามุโร่หลงรัก ได้ยอมสละชีวิตตนเพื่อช่วยชาร์จากการโจมตีของอามุโร่ ทำให้ทั้งชาร์ และ อามุโร่ กลายเป็นคู่แค้นกันตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา สุดท้ายแล้วสหพันโลกก็สามารถเอาชนะสงตราม1ปีได้ ชาร์หายสาบสูญ อามุโร่ยังคงเป็นทหารของกองทัพต่อไป
ตัวละครหลัก
1.อามุโร่ เรย์
อามุโร่ เรย์ เป็นตัวละครพระเอกของเรื่องโมบิลสูทกันดั้ม เป็นลูกชายคนเดียวของ อามาเรีย เรย์ และ ดร.ทิม เรย์ ผู้ออกแบบสร้างโมบิลซุท RX-78 (Gundum) เป็นเด็กนิวไทป์ (New Type) คือคนที่มีความสามารถเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป
หุ่นยนต์ที่ขับ GUNDAM RX - 78
2.ชาร์ อัสนาเบิล
ชาร์มีชื่อจริงว่า แคสวัล เรม ไดคุน เป็นบุตรชายของ ซีออน ซูม ไดคุน ผู้ก่อตั้งอาณาจักรซีออนซึ่งเชื่อว่าถูกตระกูลซาบี้ลอบสังหาร และมีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ อาร์ทีเซีย ซอม ไดคุน ที่ใช้ชื่อปลอมว่า เซล่า แมส
ชื่ออื่น ที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ 1.เอโดวาร์ แมส 2.ควาโทร วาจีนา
หุ่นยนต์ที่ขับ
MS-05 Zaku I [MSG The Origin]
ชาร์ได้ใช้หุ่นรุ่นนี้ในปฏิบัติการชิงตัว ดร.ไมนอฟสกี้ที่กรานาด้า ร่วมกับ 3 ดาวดำและ รัมบะ ราล ถือเป็นปฏิบัติการที่มีการใช้ MS เป็นครั้งแรก ซึ่งในปฏิบัติการนี้ ชาร์และพวกได้ใช้ MS-05 4 เครื่อง และ MS-04 1 เครื่อง(ของรัมบะ ราล) ถล่มกองกำลังของพันธมิตรโลกราบคาบ โดยทำลายยานขนส่ง 1 ลำ และ กันแคนนอน 12 เครื่อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เหนือกว่าของกองทัพซีออน ทำให้ดร.ทิม เรย์ได้ใช้โอกาสนี้ในการนำเสนอแผนโปรเจกต์ V ให้กับกองทัพพันธมิตรโล
MS-06C Zaku II
ซาคุทูว์รุ่นแรก ที่ติดหนามที่ไหล่ซ้ายและโล่ที่ไหล่ขวา เป็นกำลังหลักของซีออนจนกระทั่งสงครามหนึ่งปีเริ่ม ชาร์เคยขับซาคุรุ่นนี้สีแดงในช่วงยุทธการรูม ในช่วงแรกของสงครามหนึ่งปี และเป็นเครื่องที่ ชาร์ ใช้จมยานรบ 5 ลำ จนได้ฉายาดาวหางสีแดง หุ่นรุ่นนี้มีอาวุธเสริมเป็นหัวรบนิวเคลียร์ แต่หลังจากที่มีสนธิสัญญาแอนตาร์กติก้าห้ามอาวุธสังหารหมู่จึงเลิกใช้
MS-06S Zaku II Commander Type
ซาคุทูว์รุ่นจ่าฝูง ภายนอกต่างจากซาคุทูว์ทั่วไปแค่เสาอากาศ แต่เครื่องกำเนิดพลังงานและตัวขับเคลื่อนก็มีประสิทธิภาพสูงกว่า สำหรับเครื่องสีแดงของชาร์จะถูกปรับให้เร็วกว่าซาคุทูว์ทั่วไปถึงสามเท่า
MSM-07S Z'Gok Commander Type
สก็อกเป็นผลงานของบริษัท MIP โดยเป็นMSรุ่นสะเทินน้ำสะเทินบกที่ผสมดีไซน์ของก็อกและแอ็กไกเข้าด้วยกัน สก็อกไม่ใช้ถังน้ำสำหรับลดอุณหภูมิ แต่ใช้ระบบระบายความร้อนธรรมดาแทน มือทั้งสองข้างมีปืนอนุภาคและกรงเล็บอยู่ นอกจากนี้มิสไซล์ยังมีกระสุนมากกว่ารุ่นอื่น สำหรับเครื่องของชาร์จะเป็นรุ่นจ่าฝูงซึ่งมีเกราะที่เบาและทนทานกว่า
MS-09RS Char's Rick Dom
MS-14S Gelgoog Commander Type
เกลกุ๊กรุ่นจ่าฝูง (เกลกุ๊กรุ่นต้นแบบ) หมายเลขดั้งเดิมของเกลกุ๊กคือ MS-11 เป็นMSที่เน้นด้านสมรรถนะที่สูงมาก แต่เนื่องจากการปรากฏตัวของกันดั้มซึ่งมีบีมไรเฟิลที่ทรงอานุภาพ ทำให้โครงการนี้ถูกเลื่อนไปโดยต้องเพิ่มความสามารถในการใช้บีมไรเฟิลด้วย หมายเลขMS-11จึงถูกใช้กับMSสำหรับทดลองการใช้บีมไรเฟิลคือ แอ็คชั่น ซาคุ ดังนั้น เกลกุ๊กจึงใช้รหัสMS-14แทน โดยมีรุ่นต้นแบบ YMS-14 จำนวน 25 เครื่อง ภายหลังจากการทดสอบภาคสนาม เครื่องต้นแบบทั้ง 25 เครื่องก็ถือเป็นรุ่นจ่าฝูงและใช้รหัสMS-14S แทน อาวุธของเกลกุ๊กก็คือ บีมไรเฟิล และ บีมซอร์ด คู่ที่เรียกว่า บีมนากินาตะ และใช้งานได้ดีไม่ว่าจะเป็นบนโลกหรือในอวกาศ
RX-78/C.A. Gundam Char Aznable Custom
MSN-02 Zeong
ซีอองก์ เป็นMSสำหรับนิวไทป์ของซีออน ในตอนศึกสุดท้ายนั้นซีอองก์จะยังไม่สมบูรณ์คือไม่มีขา แต่ส่วนขาก็ไม่จำเป็นต่อการรบในอวกาศ การที่ซีอองก์ไม่มีขา ทำให้อัตราเร่งของมันเร็วขึ้นแต่ความคล่องแคล่วจะลดลง เพราะระบบ AMBAC ต้องใช้ขาในการปรับศูนย์ถ่วง นอกจากนี้ ซีอองก์ยังมีเครื่องกำเนิดพลังงานที่มีกำลังสูงกว่า MS ทั่วไปในขณะนั้นเกือบ 4 เท่า มือทั้งสองข้างของซีอองก์เป็นระบบไซคอมมิวแบบใช้สาย นิ้วทั้งหมดของซีอองก์เป็นปืนมหาอนุภาค และมีติดไว้ที่ลำตัวกับหัวอีกรวม13กระบอก มีค็อคพิทอยู่ที่หัวซึ่งแยกออกมาได้เป็นตัวแรกทำให้หนีศัตรูที่มักจะเล็งลำตัวได้ในยามคับขัน
เซต้ากันดั้ม Zeta Gundam
เซต้ากันดั้มเป็นโมบิลสูทสำคัญที่พัฒนาโดยบริษัทแอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกตามโครงการโปรเจกต์เซต้าเพื่อพัฒนาโมบิลสูทที่สามารถแปลงร่างได้ ในช่วงแรกของการพัฒนาเซต้ากันดั้มนั้นประสพปัญหาสำคัญที่โครงสร้างซึ่งใช้กับโมบิลสูทโดยทั่วไปนั้นไม่สามารถใช้การได้ จนกระทั่งได้โครงสร้างแบบมูฟเอเบิ้ลเฟรมของกันดั้มมาร์คทูว์มาศึกษา ซึ่งในขณะนั้นคามิว บีดันนักบินของกลุ่มต่อต้านสหพันธ์โลกซึ่งเป็นอดีตผู้ชนะการแข่งขันออกแบบจูเนียร์โมบิลสูทได้ออกแบบเซต้ากันดั้มไว้เป็นโมบิลสูทในจินตนาการ แต่อัสโตนาจิ เมดอสโซ วิศวกรประจำยานอากาม่าได้นำมาปรับปรุงแล้วส่งไปให้แอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกพิจารณาและกลายเป็นรูปแบบของเซต้ากันดั้มที่สมบูรณ์
เซต้ากันดั้มมีไบโอเซ็นเซอร์ที่เป็นระบบไซคอมมิวขนาดเล็กทำให้นักบินที่เป็นนิวไทป์สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซต้ากันดั้มสามารถแปลงร่างเป็นยานเวฟไรเดอร์เพื่อเร่งความเร็วและสามารถบินในชั้นบรรยากาศโลกได้ ซึ่งเกราะด้านหลังของเซต้ากันดั้มจะเป็นพลังก์อาร์เมอร์สำหรับกันความร้อนขณะการเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกในร่างเวฟไรเดอร์ ดาบบีมเซเบอร์ของเซต้ากันดั้มจะเก็บไว้ที่เอวและสามารถใช้ยิงเป็นบีมกันในร่างเวฟไรเดอร์ได้ ที่แขนของเซต้ากันดั้มติดตั้งเกรเน็ดลันเชอร์สองลำกล้อง และสามารถใช้งานไฮเปอร์เมก้าลันเชอร์ซึ่งเป็นบีมลันเชอร์อานุภาพสูงซึ่งพัฒนามาจากเมก้าบาซูก้าลันเชอร์ของเฮียะกุชิกิให้มีขนาดเล็กลงและใช้งานได้ง่ายขึ้น ส่วนปลายของไฮเปอร์เมก้าลันเชอร์ติดบีมเซเบอร์ไว้จึงสามารถใช้เป็นเหมือนดาบยาวได้ บีมไรเฟิลของเซต้ากันดั้มก็สามารถใช้เป็นบีมเซเบอร์ได้
เซต้ากันดั้มได้รับการประจำการบนยานอากาม่าโดยเป็นโมบิลสูทประจำตัวของคามิว บีดันตลอดช่วงศึกกรีปส์ ในช่วงสงครามนีโอซีอ้อนครั้งที่หนึ่งซึ่งคามิวอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถควบคุมโมบิลสูทได้อีก เซต้ากันดั้มซึ่งยังประจำการบนยานอากาม่าได้เป็นโมบิลสูทของนักบินรุ่นใหม่ คือจูโด้ อาชิตะและต่อมาได้เปลี่ยนไปให้ลู ลูก้า
Mobile Suit ประจำเรือง
Mobile Suit Zeta Gundam
RMS-099 Rick Dias
RMSเป็นโค้ดของเอวโก้ที่ใช้เพื่อไม่ให้ทิทานส์รู้ว่าเป็น MS ของ AE ริคดิแอส มีลักษณะคล้ายหุ่นของซีออน แต่มีอีกชื่อว่า"กันดั้มแกมม่า" เพราะเป็น MS ตัวแรกที่ใช้โลหะ "กันดาเรี่ยมแกมม่า" ที่ภายหลังเป็นวัสดุพื้นฐานสำหรับ MS ซึ่งแข็งกว่าเบากว่าและราคาถูกกว่ากันดาเรี่ยมดั้งเดิม (ลูน่าไททาเนี่ยม) ด้วย ชาร์ แอบขโมยตัวอย่างโลหะนี้มาจากแอ็กซิส
MSN-00100 Hyaku Shiki
เฮียกุชิกิ (แบบที่100) เป็นMSสีทองซึ่งเป็นเครื่องต้นแบบของเซต้าที่เอาระบบแปลงร่างออกไปนั่นเอง เฮียกุชิกิสร้างจากชิ้นส่วนของหนึ่งในกันดั้มมาร์คทูว์ทั้งสามตัว ที่ทาสีทองเนื่องจากเป็นสีที่ผิวบีมโค้ตติ้งที่สามารถลดความเสียหายจากอาวุธบีมได้มากที่สุดเพราะดูดซับความร้อนน้อยมาก โดยด้านหลังของเฮียกุชิกิมีเกราะปีกวิงไบน์เดอร์ซึ่งช่วยในการควบคุมด้วยระบบ AMBAC และติดตั้งท่อขับดันเสริมเอาไว้
กันดั้มดับเบิ้ลเซต้า Mobile Suit Gundam Double Zeta
เนื้อเรื่อง
เป็นโมบิลซูทกันดั้มที่สร้างต่อจากภาคเซต้า เนื้อเรื่องหลังจากที่หน่วยไทแทนส์ได้ล่มสลายลงในสงครามกริปส์วอร์เนื่องจากการที่เสียผู้บัญชาการสูงสุด แปปติมุส ซิร็อกโก้ ไปนั้น แต่ว่าจากผลกระทบของสงครามในครั้งนี้ทำให้ คามิล บิดัน เอซไพล็อทของเอวโก้กองกำลังต่อต้านไทแทนส์นั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ อันเป็นเพราะผลที่เนื่องมาจากพลังนิวไทป์ของในช่วงสุดท้ายที่ แปปติมุส ซีร็อกโก้ได้ใช้ก่อนที่ตัวเองจะตายนั้น ในการขับเคี่ยวกันในการต่อสู้ของทั้งสองคน ซึ่งหลังจากศึกครั้งนั้นเอวโก้ก็เสียหายเป็นอย่างมากจึงต้องซ่อมแซมที่โคโลนี่ไซด์วัน
Mobile Suit
Mobile Suit Double Zeta Gundam
โมบิลสูทกันดั้ม : ชาร์ เคาน์เตอร์ แอทแทค Mobile Suit Gundam: Char's Counterattack
เนื้อเรื่อง
สาธารณรัฐซีออนที่ซึ่งกำลังอ่อนแอเนื่องจากเสียผู้นำไปจากครั้งการก่อกบฏในซีออนนั้น ได้รับการจุดประกายความหวังอีกครั้งเมื่อชายที่ชื่อ ชาร์ อัสนาเบิ้ล ซึ่งแท้จริงแล้วเขาคือ "แคสวัล เลม ไดคุน" ผู้สืบทอดของซีออนที่แท้จริงได้ปรากฏตัวขึ้นมาและนำกองทัพนีโอ ซีออน บุกโจมตีโลกอีกครั้ง โดยครั้งนี้พวกเขามีแผนที่จะใช้ ทิ้งลูน่าที่ 5 ซึ่งเป็นสถานีอวกาศที่เคยใช้ในการสร้างโคโลนี่เมื่อครั้งมนุษย์เริ่มออกเดินทางสู่อวกาศ, ลงสู่บนพื่นโลกซึ่งเป็นฐานทัพของกองทัพโลกซึ่งตั้งอยู่ ณ ทิเบต เมืองลาซา ทำให้หน่วยลอนโด เบลล์ กองกำลังอิสระภายใต้สังกัดกองทัพโลก ซึ่งมี อามุโร่ เรย์ ศัตรูคู่แค้นของชาร์ในสงครามหนึ่งปี ชายผู้นำชัยชนะมาสู่กองทัพโลก ซึ่งรับรู้ถึงแผนการอันชั่วร้ายของชาห์ ดังนั้นอามุโร่จึงต้องร่วมมือกับ ไบรท์ โนอา อดีตกัปตันไวท์เบสเมื่อครั้งสงครามหนึ่งปี ในการที่จะหยุดการกระทำครั้งนี้ รวมไปถึงการตัดสินขั้นเด็ดขาดกับชาร์อีกด้วย
ตัวละครหลัก
1.อามุโร่ เรย์
อามุโร่ เรย์ เป็นตัวละครพระเอกของเรื่องโมบิลสูทกันดั้ม และ โมบิลสูทกันดั้ม : ชาร์ เคาน์เตอร์ แอทแทค เป็นลูกชายคนเดียวของ อามาเรีย เรย์ และ ดร.ทิม เรย์ ผู้ออกแบบสร้างโมบิลซุท RX-78 (Gundum) เป็นเด็กนิวไทป์ (New Type) คือคนที่มีความสามารถเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป ภายหลังเค้าได้รับ โมบิลซุท ที่ชื่อว่า RX-93 (Nu-Gundum) ที่เคยเป็นโมบิลซุทที่อามุโร่ เรย์ ออกแบบมาเพื่อรับมือกับ MSN-04 (ซาซาบี) ของ ชาร์ อัซนาเบิ้ล
หุ่นยนต์ที่ขับ
RX-93 (Nu-Gundum)
กันดั้ม 0080 gundam 0080
เนื้อเรื่อง
ในเดือนธันวาคม UC 0079 ช่วงปลายสงคราม 1 ปี สาธารณรัฐรีอา ของไซด์ 6 ที่ยังคงเป็นกลาง ได้เริ่มต้นการเจรจาสนธิสัญญาความปลอดภัยลับๆ กับฝ่ายพันธมิตร และยอมให้กองกำลังพันธมิตร ตั้งค่ายลับ อยู่บนโคโลนี่ ในระหว่างนั้น ที่ฐานลับของพันธมิตร บริเวณขั้วโลกเหนือ กำลังพัฒนาโมบิลสูทรุ่นใหม่ "กันดั้ม NT-1 อเล็กซ์" ที่ขั้วโลกเหนือ
หน่วยไซคลอปส์ กองกำลังพิเศษระดับสูงของซีออน ถูกส่งไปที่โลกเพื่อทำลายอาวุธลับที่พัฒนาอยู่ ณ ฐานทัพพันธมิตรบริเวณขั้วโลกเหนือ ร้อยเอกชไตเนอร์และลูกน้อง ได้เปิดฉากการโจมตีแบบสายฟ้าแลบทั้งทางบกและในน้ำ และยังทำลายระบบป้องกันภัยของฐานทั้งหมด แต่เป็นโชคดีของฝ่ายพันธมิตรที่สามารถส่ง กันดั้ม ขึ้นไปสู่ห้วงอวกาศได้ทันก่อนที่ะถูกหน่วยไซคลอปส์ทำลาย ภารกิจของชไตเนอร์ล้มเหลว และเขาสูญเสียเสียแอนดี้ 1 ในลูกน้องฝีมือดีไปขณะที่แอนดี้กำลังจะทำลายกระสวยที่บรรทุกกันดั้มนั้นเอง
ณ ไซด์ 6 โคโลนี่ลิโบ อัล หรือ อัลเฟรด อิซุรุฮะ หนุ่มน้อยวัย 11 ปี และเพื่อนของเขา ใช้เวลาว่างแทบทั้งหมดเพื่อที่จะเก็บสะสมทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับทางทหารและโมบิลสูท
อัล พนันกับเพื่อนว่ามีโมบิลสูทของฝ่ายพันธมิตร อยู่บนโคโลนี่ และสัญญาว่าถ่ายถ่ายภาพมาให้ดู เนื่องจากพ่อของอัลทำงานอยู่ในบริษัทขนส่ง อัลจึงเข้าออก สถานีขนส่งของ ไซด์ 6 ได้อย่างง่ายดาย หลังจากกลับบ้าน อัลได้พบกับ คริส หรือ คริสติน่า แมคเคนซี่ นักบินทดสอบหญิงของฝ่ายพันธมิตร เพื่อนบ้านของอัลที่ไม่ได้เจอกันราว 3 ปี วันต่อมา เกิดการโจมตีที่ไซด์ 6 โดยฝ่ายซีออนได้เป็นผู้เปิดการโจมตี ระหว่างนั้น อัลได้พบกับ แซ็คเครื่องหนึ่งที่เสียหายและพยายามลงจอด เขาจึงวิ่งตามแซ็คเครื่องนั้นไป และพบกับ เบอร์นี่ หรือ เบอร์นาร์ด ไวส์แมน นักบินฝึกหัดของซีออน หลังจากที่อัลเห็นเครื่องหมายยศของเบอร์นี่ ด้วยความที่เขาเป็นเด็กที่ชื่นชอบทหารอยู่แล้ว เขาจึงขอแลกเครื่องหมายยศของเบอร์นี่กับ กล้องถ่ายวิดีโอของเขานั่นเอง
ที่ดวงจันทร์ หลังจากกองกำลังซีออนกลับมายังฐานกรานาด้า หน่วยไซคลอปส์ก็ได้ดูวิดีโอที่เบอร์นี่ได้มาจากอัล และพบว่าโมบิลสูทที่พวกเขาไล่ล่าที่ขั้วโลกเหนือนนั้น เป็นเครื่องเดียวกับที่ไซด์ 6
พันโทคิลลิ่ง จอมเจ้าเล่ห์ ได้ส่งหน่วยไซคลอปส์ไปยังไซด์ 6 เพื่อแทรกซึมและค้นหาโมบิลสูทเครื่องนั้น ซึ่งพวกเขาสงสัยว่าน่าจะเป็น กันดั้ม ที่ออกแบบมาให้นักบินนิวไทป์เป็นผู้ขับโดยเฉพาะ ชไตเนอร์ต้องการให้คิลลิ่งหานักบินฝีมือดีมาให้หน่วยไซคลอปส์ แทน แอนดี้ ที่ตายไปในภารกิจที่ขั้วโลกเหนือ แต่คิลลิ่งกลับบรรจุ เบอร์นี่ ซึ่งเป็นเพียงนักบินฝึกหัดให้แทน แต่ชไตเนอร์ก็อธิบายแผนการให้เบอร์นี่ฟัง พร้อมทั้งแนะนำให้เขารู้จักกับ มิฮาอิล คามินสกี้ หรือ มีชา และ กาเบรียล รามิเรซ การ์เซีย เพื่อนร่วมหน่วยของเขา
ขณะที่กองทัพซีออนกำลังโจมตีไซด์ 6 อยู่นั้น เบอร์นี่ได้นำยานขนส่งที่ซ่อนเคมป์เฟอร์ (Kaempfer) โมบิลสูท รุ่นใหม่ของซีออน ที่ยังไม่ได้ประกอบ เข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบยานของไซด์ 6 ระหว่างที่หน่วยไซคลอปส์กำลังนำรถบรรทุกไปยังฐานลับของพวกเขา ระหว่างนั้นอัลเห็นเบอร์นี่ จึงแอบขึ้นรถบรรทุกของการ์เซีย แต่ก็พลาดตกลงมากลางทาง อัลจึงหันไปหาตำรวจ โดยโกหกว่าถูกรถชนแล้วหนี เพื่อให้ตำรวจตามหาที่อยู่ของพวกเบอร์นี่ให้ แต่เมื่อไปถึง อัลเห็นมีชาและการ์เซียกำลังทำท่าเหมือนจะลงมือสังหารตำรวจ อัลจึงแกล้งทำเป็นร้องไห้ และบอกกับตำรวจว่า ความจริงแล้วเขาเพียงแค่อยากจะมา เบอร์นี่ พี่ชายที่ไม่ได้พบหน้ากันมานานเท่านั้นเอง แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เลยต้องโกหกตำรวจว่าโดนรถชน เพื่อที่ตำรวจจะได้พามา ซึ่งเบอร์นี่ก็ยอมเล่นละครไปกับอัลด้วย เพื่อตบตาตำรวจ
ช่วงกลางดึก หลังจากที่อัลกลับมาบ้าน คริสเห็นเบอร์นี่ซึ่งหน่วยไซคลอปส์ ส่งมาดูแลพฤติกรรมไม่ให้อัลปากโป้งไปบอกคนอื่นเกี่ยวกับแผนการของพวกเขา กำลังจะปีนเข้าบ้านอัล ทำให้คริสนึกว่าเป็นขโมย เลยเอาไม้เบสบอลตีหัวเบอร์นี่อย่างแรงจนสลบเหมือด แต่อัลก็อธิบายให้คริสฟังว่า เบอร์นี่เป็นพี่ชายต่างแม่ของเขา คริสรู้สึกผิดเลยชวนทั้งคู่ไปทานน้ำชาในบ้านกับครอบครัวของเธอ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คริสและเบอร์นี่ได้รู้จักกัน
วันรุ่งขึ้น หน่วยไซคอลปส์ คิดจะกำจัดเบอร์นี่และอัล โดยส่งพวกเขาไปสืบเรื่องกันดั้มในที่ซ่อนของฝ่ายพันธมิตร ในขณะที่ ชไตเนอร์นั้น รับข่าวสารที่ให้เบอร์นี่ไปสืบ จากสายลับของซีออน แต่แล้ว ชไตเนอร์ก็ต้องแปลกใจที่ไม่ได้เป็นไปตามคาด เบอร์นี่กับอัลทำภารกิจสำเร็จ และยังนำรูปถ่ายของกันดั้มกลับมาให้เขาอีกด้วย หลังจากจบภารกิจ เบอร์นี่พาอัลไปส่งที่บ้านแล้วบังเอิญเจอคริส ก่อนที่เบอร์นี่จะกลับ ทั้งคู่จึงกล่าวราตรีสวัสดิ์ต่อกัน
วันดีเดย์ของภารกิจ หน่วยไซคอลปส์ เตรียมการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่ ชไตเนอร์ รู้ว่าคิลลิ่งเพียงแค่ส่งพวกเขาไปตายเพื่อให้ยืนยันการมีอยู่ของกันดั้มเท่านั้น แต่ชไตเนอร์ก็ยังสานต่อภารกิจโดยไม่หยุด ขณะที่ มีชา ขับเคมป์เฟอร์ซึ่งประกอบเสร็จสิ้น ออกไปต่อสู้กับกองกำลังป้องกันโคโลนี่นั้น พวกชไตเนอร์ก็แทรกซึมเข้าไปในฐานของพันธมิตร อัลแอบตามพวกเขาเข้าไปในฐาน แต่สิ่งที่อัลได้เห็น กลับเป็นการต่อสู้ที่นองเลือด ชไตเนอร์ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส การ์เซียจึงพลีชีพด้วยการระเบิดตัวเองเพื่อทำลายกันดั้ม แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ส่วนมีชาถูกสังหารโดยกันดั้มขณะที่เขากำลังต่อสู้อยู่ ภารกิจของหน่วยไซคลอปส์ ล้มเหลว และในที่สุด ชไตเนอร์ ก็เสียชีวิตในมือของเบอร์นี่
หลังจากที่หน่วยไซคลอปส์ ทำภารกิจล้มเหลว คิลลิ่งจึงตัดสินใจแก้ปัญหาโดยคิดที่จะใช้หัวรบนิวเคลียร์ทำลายกันดั้มไปพร้อมกับไซด์ 6 ซะ เมื่อเบอร์นี่รู้ว่าไซด์ 6 จะถูกทำลาย เขาเลยตัดสินใจที่จะทิ้งภารกิจและบอกอัลให้หนีไปซะ แต่อัลพยายามเตือนสติเบอร์นี่ และพยายามบอกตำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตำรวจไม่เชื่อ แต่แล้ว เบอร์นี่ก็เปลี่ยนใจที่จะกลับไปทำลายกันดั้ม เพื่อปกป้องไซด์ 6 อัลและเบอร์นี่ช่วยกันซ่อมแซ็คของเขาจนเสร็จ และช่วยกันวางแผนการรบ
เย็นวันคริสต์มาสอีฟ เบอร์นี่ได้ให้เทปบันทึกม้วนหนึ่งแก่อัล และกล่าว Merry Christmas แก่อัล และยังฝากถึง คริสและครอบครัวของคริสด้วย หลังจากนั้นเบอร์นี่ก็ใช้เวลาเตรียมตัวสำหรับศึกวันพรุ่งนี้วันคริสต์มาส อัลและแม่ไปที่ท่าเทียบยาน เพื่อรอรับพ่อที่ได้เดินทางกลับมาบ้าน ระหว่างทาง อัลได้ยินจากพ่อว่า กองยานของซีออนที่บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์มา ได้ถูกกองกำลังฝ่ายพันธมิตร โจมตีจนยอมจำนนแล้ว พออัลได้ยินดังนั้น ก็รีบวิ่งออกไปเพื่อบอกเบอร์นี่ว่าไม่มีความจำเป็นต้องสู้กับกันดั้มอีกแล้ว ขณะที่เบอร์นี่ได้ขึ้นไปบังคับแซ็คของเขา เพื่อที่จะล่อกันดั้มไปเขตป่านอกเมือง แต่ทว่า อัลก็มาช้าไป ทั้งกันดั้มและแซ็ค ต่างก็ทำลายซึ่งกันและกัน ภาพที่ปรากฏต่อหน้าอัลคือ กันดั้มที่ไร้หัว แทงบีมเซเบอร์เข้าไปในค็อกพิทของแซ็ค เบอร์นี่เสียชีวิตในหน้าที่ หน่วยแพทย์ของพันธมิตรพบว่าอัลกำลังช็อค จึงพาตัวอัลไปยังแคมป์พยาบาล แต่ในขณะที่ทีมแพทย์ได้นำตัวนักบินของกันดั้มที่บาดเจ็บจนหมดสติลงมา อัลก็ได้เห็นสิ่งที่แทบไม่อยากเชื่อสายตา เพราะนักบินคนนั้นคือ คริส นั่นเอง
2-3 สัปดาห์ต่อมา สงครามสิ้นสุดลงแล้ว อัลเปิดดูเทปที่เบอร์นี่ให้เขามา ในเทปนั้น เบอร์นี่กล่าวไว้ว่า ถ้าหากอัลได้ดูเทปม้วนนี้ เขาอาจจะตายไปแล้ว แต่เขาไม่อยากให้อัลโทษนักบินของกันดั้ม หรือฝ่ายพันธมิตร เพราะพวกเขาล้วนแต่ทำสิ่งที่คิดว่าถูกต้องที่สุด และถ้าสงครามสิ้นสุดแล้วเขารอดตาย เขาสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมอัลที่ไซด์ 6 แน่นอน
ในระหว่างที่อัลไปโรงเรียน อัลเจอกับคริสในสภาพใส่เฝือกที่แขนอยู่ เธอบอกอัลว่า เธอต้องกลับไปที่โลกแล้ว และฝากลาเบอร์นี่ด้วย พออัลถึงโรงเรียนของเขาที่เสียหายจากการต่อสู้ระหว่างกันดั้มและเคมป์เฟอร์ ครูใหญ่กล่าวถึงผู้ที่สูญเสียในสงครามว่า พวกเขาทุกคนเป็นผู้ที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพ น้ำตาของอัลเริ่มร่วงโรย เพราะว่าเขาเป็นผู้ที่รู้ซึ้งถึงความโหดร้ายของสงครามโดยแท้จริง
Mobile Suit
RX - 78 NT
โมบิลสูทกันดั้ม F91 GUNDAM F91
เนื้อเรื่อง
เป็นการเล่าเรื่องราวถึง กลุ่ม ครอสโบน แวนการ์ด ที่นำกำลังทหารเข้ารุกรานโคโลนี ฟรอนเทียร์ โคโลนีอันอยู่ใต้การปกครองของสหพันธ์โลก ซีบุค อาโน ผู้อาศัยอยู่ใน โคโลนี ฟรอนเทียร์ หมายเลข4 และเพื่อน ขณะที่กำลังหลบหนีจากการโจมตี กลุ่ม ครอสโบน แวนการ์ด ได้เข้ามาลักพาตัวเพื่อนของ ซีบุค อาโน ที่ชื่อ เซซิลี แฟร์ชาย ซึ่งเป็น ลูกสาวของหัวหน้ากลุ่ม ครอสโบน แวนการ์ด อาโน และเพื่อนที่เหลือจึงหนีไป ด้วยยานกู้ภัยและ ถูกคนของทางกองทัพสหพันธโลกยื้อตัวเข้าไปช่วยในสงครามเพื่อแย่งชิง ฟรอนเทียร์ คืนภายหลังเมื่อกองทัพโลกรู้ว่า อาโนนั้นคือนิวไทบ์ที่หายากยิ่งแล้ว จึงใช้เพื่อนและน้องสาวของอาโนบังคับให้อาโนออกสู้ ด้วยโมบิลสูทรุ่น ทดลองที่ชื่อF-91 หลังจากที่อาโน พบขึ้นขับF-91ในสนามรบก็พบกับ เซซิลี แฟร์ชาย อีกครั้งในครั้งนี้เธอเป็นนักบินของกลุ่มครอสโบน เมื่อทั้งคู่รู้ตัวว่ากำลังสู้กับใคร ทั้งคู่จึง ร่วมมือกันทำลายแผนของกลุ่มครอสโบน ที่จะใช้ บัคและโมบิลอาเมอ ราเฟิลเซีย ทำลายล้างระบบของสหพันธ์ที่กำลังปกครอง โคโลนีอยู่
Mobile Suit
GUNDAM F91
กันดั้ม 0083 GUNDAM 0083
เป็นเรื่องราวการต่อสู้หลังจากที่ซีออนได้พ่ายแพ้ในศึกสงครามที่อาบาวคู และมีซีออนกลุ่มหนึ่งหนีออกจาก อาบาวคู ไปซ่อนตัวเพื่อรอเวลาแห่งการแก้แค้น และ เพื่อความหวังที่จะจุดประกายความหวังให้กับเหล่าทหารซีออนนั้นคือแผนการขโมยโมบิลสูทรุ่นใหม่ของพันธมิตรกันดั้มที่กำลังพัฒนาขึ้นโดยใช้คอนเซปต์ทางอาวุธของโมบิลอาร์เมอร์ในการสร้างโดยใช้ชื่อว่า จีพี (GP - Gundam development Project) โดยมี อนาเวล กาโต้ ฉายา "ฝันร้ายแห่งโซโลม่อน" เป็นหัวหอกให้แผนปฏิบัติการนี้เป้าหมายคือการขโมยกันดั้มเครื่องทดสอบเครื่องที่2 GP-02 ซึ่งมีการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์นับเป็นการละเมิด สนธิสัญญาแอนตาร์คติก หากเขานำมันไปเปิดเผยแก่สายตาชาวโลกจะมีผลทางการเมืองที่จะเป็นประโยชณ์แก่ซีออน แต่โค อุรากิ นักบินทดสอบได้เผชิญหน้ากับเขาระหว่างการขโมยกันดั้ม GP-02 และเข้าขัดขวางโดย โค อุรากิ นั้นขับโมบิลสูทกันดั้ม GP-01 (ซึ่งภายหลังได้อัพเกรดเป็น GP-01Fb (Full burner)) ในการเข้าต่อกรเพื่อการชิงกันดั้มกลับคืนมา หลังจากที่กันดั้มถูกขโมยไปได้นั้น โค อูรากิ ได้รู้ถึงความน่ากลัวของสงคราม และตัดสินใจเลือกที่จะเผชิญหน้าแทนการหนีจากความจริ
Mobile Suit
Mobile Suit gundam GP-01
Mobile Suit gundam GP-02
จีกันดั้ม G GUNDAM
ในศักราชใหม่ Future Colony มนุษย์ส่วนหนึ่งได้อพยพจากโลกไปอยู่ในโคโลนี่บนอวกาศเพราะสภาพความเสื่อมโทรมของโลก และเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามระหว่างกัน ทำให้ทุกประเทศร่วมกันตั้ง "กันดั้มไฟท์" การแข่งขันซึ่งตัวแทนของแต่ละประเทศจะต้องส่งหุ่นนาม "กันดั้ม" ซึ่งควบคุมโดยนักสู้ที่เรียกกันว่า "กันดั้มไฟเตอร์" ออกมาต่อสู้ จนเหลือผู้ชนะเพียงหนึ่ง ประเทศของผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์ในการปกครองสหพันธ์โคโลนี่ไปจนกว่าจะถึงการแข่งขันครั้งต่อไป โดยมีสังเวียนคือโลก
ในกันดั้มไฟท์ครั้งที่ 13 โดมอน ตัวเอกของเรื่องซึ่งต้องมาเป็นกันดั้มไฟท์ของนีโอเจแปน ต้องตามหาพี่ชายของตนเองที่นำเอา "เดวิลกันดั้ม" หนีมายังโลกก่อนจะเกิดหายนะพร้อมทั้งเพื่อช่วยพ่อของตนที่ถูกลงโทษแช่แข็งจำศีล จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งนี้
Mobile Suit
GF13-017NJ ไชน์นิ่งกันดั้ม
GF13-017NJII ก็อดกันดั้ม
GF13-006NA กันดั้มแม็กซ์เตอร์
GF13-009NF กันดั้มโรส
GF13-011NC ดราก้อนกันดั้ม
GF13-013NR โบลต์กันดั้ม
กันดั้มวิง GUNDAM WING
เนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องกล่าวถึงเหตุการณ์ในปี AC-195 (ปี After Colony ที่ 195) เด็กหนุ่ม 5 คน ที่ถูกส่งจากโคโลนี่ต่างๆ พร้อมด้วยหุ่นยนต์รบที่ทรงประสิทธิภาพคือ วิงกันดั้ม กันดั้มเดธไซธ์ กันดั้มเฮฟวี่อาร์ม กันดั้มแซนด์ร็อก เฉียนหลงกันดั้ม มายังโลกเพื่อปฏิบัติภารกิจ โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นักรบทั้ง5คนถูกส่งมาจากโคโลนี้เพื่อมากำจัด OZ ซึ่งเป็นองค์กรทหารที่เข้มแข็งที่สุด ถูกส่งมาภายใต้รูปลักษณ์ ของดาวตกโดยใช้ชื่อแผนปฏิบัติการว่า Operation Meteor โดยสร้างจากนักวิทยาศาสตร์ทั้ง 5 โดยส่งมาจากโคโลนี้ต่างๆ เป็นเหตุที่ไม่คาดฝันเพราะ กันดั้มทั้ง 5 ถูกส่งมาพร้อมกันบังเอิญเป็นเหตุที่ต้องทำงานรวมกัน แต่ไม่ว่ายังไงทั่ง 5 คน จะต้องกำจัด OZ ให้ได้เพื่อนำสันติภาพมาสู้ชาวโคโลนี่ หลังจากกันดั๊มทั้ง 5เครื่องถูกส่งมา OZได้เริ่มปฏิวัตโดยการให้คนของ SMS(OZ) แทรกฃึมเข้าไปในสหัพันธ์โลกและกระจายข่าวลวงเพื่อหลอกใช้นักบินกันดั๊มว่าผู้นำระดับสูงของOZจะมาประชุมที่ฐานทัพนิวเอดเวิร์ดฮีโร่ได้สังหารผู้นำสูงสุดของสหัพันธ์โลกจอมพลโนเวนต้าลงเพราะเข้าใจผิดว่าชัตเทอร์ที่โนเวนต้านั่งเป็นของOZ ทำให้สงคราม ครั้งใหญ่เกิดขึ้น
โมบิลสูทกันดั้ม 08th ทีม GUNDAM 08
เนื้อเรื่อง
ร้อยตรี ชิโร่ อามาดะ นายทหารของสหพันธ์โลก ได้รับคำสั่งให้ย้ายมาประจำการในป่าฝนเขตร้อนแถบอินโดนีเซีย-มาเลเซีย แต่ในขณะที่กำลังย้ายจากโคโลนี่ มาสู่โลกนั้น ยานอวกาศที่เขานั่งมา ได้ผ่านจุดซึ่งกำลังมีการปะทะกันระหว่างกองกำลังสหพันธ์โลกกับกองกำลังซีออน ชิโร่จึงขับบอลเข้าช่วยเหลือ และได้พบกับ ไอน่า ซาฮาริน ซึ่งเป็นนักบินทดสอบของซีออน ทั้งคู่จึงเกิดการปะทะกันขึ้น โดยที่หุ่นของทั้ง 2 ฝ่าย พังเสียหาย แต่ทั้งคู่ก็ได้หนีเข้าไปในซากของยานรบในอวกาศ และเกิดตกหลุมรักซึ่งกันและกัน ภายหลังที่ทั้ง 2 แยกกัน ชิโร่ก็ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าโมบิลสูทหน่วยย่อยที่ 8 ของสหพันธ์โลก โดยมีลูกทีมคือ พันจ่าเอกคาเรน โจชัวร์, สิบโทเทอร์รี่ แซนเดอร์ส, สิบตรีเอเลดอร์ แมซซิส, และสิบตรี มิเกล นิโนริช
กันดั้มเอ็กซ์ GUNDAM X
เนื้อเรื่อง
15 ปีก่อน ได้เกิดสงครามระหว่างโคโลนี่และสหพันธ์โลกขึ้น โคโลนี่ได้ใช้ประชาชนของโลกเป็นตัวประกัน โดยการขู่ว่าถ้าสหพันธรัฐไม่ยอมแพ้ จะทำให้โคโลนี่ตกลงสู่โลกเพื่อทำลายล้างโลก ทางสหพันธ์โลกจึงได้ส่งโมบิลสูทออกมาทำลายล้างเหล่าโคโลนี่ แต่ก็มิอาจหยุดยั้งการตกของโคโลนี่ได้ ทำให้โลกอยู่ในสภาวะล่มสลายมาถึง 15 ปี
หลังจากสงครามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นเวลา 15 ปี การ์รอด รัน เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ได้รับการว่าจ้างให้ไปพาตัวทีฟ่าออกมาจากยานฟรีเด็น การ์รอดรักทีฟ่าทันทีที่แรกเห็น และพาเธอออกมาจากยานดังกล่าว แต่เพราะอาการหวาดกลัวของทีฟ่าที่มีต่อผู้ว่าจ้าง ทำให้การ์รอดเปลี่ยนเป้าหมายเป็นพาทีฟ่าหนีไป จนเขาได้พบกับอาวุธที่หลงเหลือจากสงครามเมื่อ 15 ปีก่อน GX-9900 กันดั้มเอ็กซ์ เข้า
กันดั้มซี้ด GUNDAM SEED
เนื้อเรื่อง
ไฟแห่งสงครามที่ครุกกรุ่นกำลังจะโหมกระพือในอีกไม่นานนี้..เรื่องราวเกี่ยวกับสงครามระหว่าง เนเชอรัล และ โคออร์ดิเนเตอร์. โคออร์ดิเนตอร์ หรือ มนุษย์ที่ได้รับการตัดต่อพันธุกรรม ให้มีความสามารถสูงขึ้นกว่าปกติ ในขณะที่ เนเชอรัล หรือ มนุษย์ซึ่งเกิดตามแบบธรรมชาติ เริ่มมีความอิจฉาริษยาในความสามารถของพวกเขา ความอิจฉาริษยานั้นแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียด และก่อให้เกิดกลุ่มผู้ต่อต้านโคออร์ดิเนเตอร์หรือ บลูคอสมอส (Blue Cosmos) เพราะเหตุนี้ เหล่าโคออร์ดิเนเตอร์จึงได้สร้างโคโลนี่ในอวกาศขึ้นมาเรียก แพลนท์ (PLANT : Productive Ally on Nexus Technology) และเพราะเหตุนี้ทำให้โคออร์ดิเนเตอร์ที่เคยอาศัยบนโลกนั้น เริ่มเหลือน้อยลงทุกที
ในที่สุด ไฟแห่งสงครามก็ระเบิดขึ้น ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ CE (Cosmic Era) 70 สามวันหลังจากการประกาศสงครามระหว่างฝ่ายสหพันธ์โลก (OMNI : Oppose Militancy & Neutralize Invasion Enforcer) และ กองทหารของเหล่าโคออร์ดิเนเตอร์ หรือ ซาฟท์ (ZAFT : Zodiac Alliance of Freedom Treaty) ฝ่ายสหพันธ์โลกเริ่มโจมตีแพลนท์เป็นครั้งแรก และใช้อาวุธนิวเคลียร์ทำลายโคโลนี่ที่มีชื่อว่า "ยูนิอุสเซเว่น (Junius Seven) " ซึ่งเป็นแพลนท์ทางด้านเกษตรกรรม ผู้คนบริสุทธิ์กว่า 200,000 ราย ต้องเสียชีวิต (243,721 คน) จนถูกกล่าวขานว่าเป็นเหตุการณ์ " วาเลนไทน์ เลือด (Bloody Valentine) " ทำให้ฝ่ายแพลนท์ตัดสินใจใช้ N-Jammer (Neutron Jammer) ซึ่งสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของอนุภาคนิวตรอน ทำให้ยับยั้งปฏิกิริยานิวเคลียร์ได้ โดยแพลนท์ยิงฝัง N-Jammer ลงใต้พื้นดินทั่วโลก ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนพลังงานอย่างมาก และคลื่นวิทยุบนโลกก็ถูกรบกวนจนใช้การได้ลำบาก
ไฟแห่งสงครามที่ก่อตัวขึ้น และจบลงในอีก 11 เดือนต่อมา โดยฝ่ายแพลนท์ได้รับชัยชนะในหลายๆ พื้นที่ในโลก ซึ่งหลังจากสงครามครั้งนี้สงบลง เรื่องราวต่างๆ ก็เริ่มต้นขึ้น
คิระ ยามาโตะ ตัวเอกของเรื่อง เป็นนักเรียนวิศวกรรมหุ่นยนต์ของเฮลิโอโพลิส (Heliopolis) โคโลนี่ของออร์บ ซึ่งเป็นประเทศเป็นกลาง ที่กำลังใช้ชีวิตวัยเรียนอย่างสงบสุข จนกระทั่งถูกฝ่ายซาฟท์ที่นำโดยพันเอกครูเซ่เข้าโจมตี หลังจากค้นพบว่า ออร์บได้พัฒนาโมบิลสูทและยานรบรุ่นใหม่(อาร์คแองเจิ้ล) ร่วมกับสหพันธ์โลกภายในโรงงานหลักของมอร์เก้นเรท (Morgenroete) โดยซาฟท์มีจุดประสงค์ที่จะขโมยโมบิลสูททั้ง 5 เครื่อง (สไตรค์, ดูเอล, บัสเตอร์, อีจิส และบลิทซ์) ยกเว้นเพียงตัวสุดท้ายเท่านั้นที่คิระบังเอิญได้ขึ้นบังคับ นามของมันคือ สไตรค์ จนกระทั่งนำไปสู่สงครามกับเหล่าโมบิลสูทอีก 4 เครื่องที่เหลือ โดยคิระเรียกชื่อโมบิลสูท สไตรค์ว่า "กันดั้ม (Gundam) " จากตัวอักษรนำหน้าข้อความที่ปรากฏในมอนิเตอร์ห้องนักบินตอนเข้าระบบปฏิบัติการของโมบิลสูท คิระ ซึ่งเป็นโคออร์ดิเนเตอร์ ได้แสดงความสามารถปรับเปลี่ยนระบบปฏิบัตการที่ยังไม่สมบูรณ์ของสไตรค์ในเวลาคับขัน จนเขาสามารถบังคับสไตรค์ต่อสู้กับหุ่นจินน์ของซาฟท์ได้ เพื่อปกป้องเพื่อนๆของเขา และหาหนทางยุติสงครามครั้งนี้
กันดั้มซี้ดเดสทินี GUNDAM SEED DESTINY
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวเกิดขึ้นจากผลกระทบของสงครามระหว่างกองทัพโลกและกองทัพซาฟต์ในสงครามครั้งก่อน เมื่อ ออร์บ ประเทศเป็นกลางโดนกองทัพโลกบุกโจมตีเพื่อยึดโรงงานโมบิลสูทมาเป็นของตัวเอง เพื่อใช้ในการผลิตโมบิลสูทต่อสู้กับกองทัพซาฟต์และนำเทคโนโลยีของออร์บมาใช้ ในขณะนั้นเองตัวเอกของเรื่อง ชิน อาสึกะ นั้นก็ได้รับผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้นจนทำให้เสียครอบครัวอันเป็นที่รักไป ต่อมาในภายหลังก็ได้อพยพย้ายไปอยู่ที่ แพลนท์ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักบินของซาฟต์ในการขับหุ่นกันดั้มรุ่นใหม่ของซาฟต์ อิมพัลส์กันดั้ม และด้วยเหตุอันสุดวิสัยจึงต้องเข้ามาเกี่ยวกับสงครามครั้งใหม่ที่เกิดจากการจู่โจมของหน่วยลับบลูคอสมอส นำโดยพันเอกนีโอ ลอร์นอร์ค ได้ขโมยกันดั้มรุ่นใหม่ของทางซาฟต์ไปถึง 3 เครื่อง เคออสกันดั้ม ไกอากันดั้ม อบีสกันดั้ม ซึ่งในขณะนั้น อัสรัน ซาล่า และ คางาริ ได้อยู่ที่แพลนท์ด้วย ทำให้ทั้งสองต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามที่จะประทุขึ้นมาครั้งใหม่ ทั้งการก่อการณ์ร้ายของเหล่าโคออดิเนเตอร์ที่แพ้สงครามครั้งก่อน และยังยึดมั่นในอุดมคติของ แพททริก ซาร่า ทำให้พวกเขาส่ง ยูนิอุส เซเวน (JUNIUS SEVEN)ตกลงสู่โลก ทั้งการที่หน่วยลับของโคออดิเนเตอร์พยายามสังหาร ลักส์ ไคลน์ การตัดสินใจของคิระและอัสรันในสงครามที่สวนทางกัน ทั้ง ๆ ที่ความตั้งใจของเขาทั้งสองเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เหตุการณ์จึงยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้น เมื่อบลูคอสมอสยื่นมือเข้ามาในสงครามนี้ และ ออร์บ ที่เข้าไปเป็นพันธมิตรกับ สหพันธ์แอตแลนติก
กันดั้มซี้ด C.E.73 สตาร์เกเซอร์
หลังจากการตกของยูนิอุสเซเว่นตามเนื่อเรื่องหลักของภาค กันดั้มซี้ดเดสทินี กองทัพโลกได้จัดกำลังพลออกไปช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่รับเคราะห์จากวินาศภัยครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน เซเลเน่ แมคกริฟ พนักงานของหน่วยงานบุกเบิกอวกาศ DSSD (Deep Space Survey and Development Organization) ก็หาทางกลับไปยังสถานีอวกาศของทาง DSSD เพื่อทำการทดสอบโมบิลสูทรุ่น 401 หรือที่รู้จักกันภายหลังว่า "สตาร์เกเซอร์(GSX-401FW Stargazer)" เพื่อใช้ในการสำรวจอวกาศ
อีกด้านหนึ่งกองกำลังอิสระที่ 81 หรือ "แฟมทอมเพน" (Phantom Pain) ก็ได้ส่งทีมของ สเวน คาล บายันผู้ขับโมบิลสูท "สไตรค์ นัวร์" (GAT-X105E Strike Noir) ให้นำลูกทีมอีกสองคนที่ขับ "บลูดูเอล" (GAT-X1022 Blu Duel) และ "เวอร์เด้บัสเตอร์" (GAT-X103AP Verde Buster) ไปต่อต้านการโจมตีจากกองกำลังที่คาดว่าจะเป็นทหารของซาฟต์ที่บุกเข้าโจมตีสถานที่ต่างๆ ในระหว่างที่โลกเกิดความวุ่นวาย คนทั้งสองที่เหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน แต่สุดท้ายด้วยการชี้นำของชะตากรรมและผู้เฝ้ามองดาวทำให้คนทั้งสองต้องมาพบกันในที่สุด.
กันดั้มดับเบิลโอ GUNDAM OO
มนุษย์ได้คิดค้นสร้างลิฟต์ขึ้นสู่วงโคจรนอกอวกาศและระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์นอกชั้นบรรยากาศโลก และเริ่มใช้จริงเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนน้ำมันที่ถูกขุดขึ้นมาใช้จนเกือบหมด แต่ในการก่อสร้างระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และลิฟต์อวกาศนั้นจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนและทรัพยากรในการก่อสร้างอย่างมหาศาล ซึ่งผู้ที่ถือครองกรรมสิทธิ์และได้รับผลประโยชน์นั้น มีเพียง 3 ขั้วมหาอำนาจเท่านั้น ได้แก่
- Union (Union of Solar Energy and Free Nations)
- HRL (Human Reform League)
- AEU (Advanced European Union)
- มีสมาชิกคือ ไอซ์แลนด์, หมู่เกาะ ในทะเล บาเรน, กรีนแลนด์, แอนนาโทเลีย, รัสเซีย (ส่วนที่อยู่ในยุโรป), และประเทศที่อยู่ในยุโรปทั้งหมดถึงแม้ทั้งสามขั้วมหาอำนาจจะไม่ก่อสงครามต่อกันถึงขั้นแตกหักต่อกันก็ตาม ต่างฝ่ายต่างก็แข่งขันกันคิดค้นพัฒนายุทโธปกรณ์ทางการทหารกันอย่างไม่ยั้งมือ เกิดเป็นสงครามเย็นที่ดูเหมือนจะเป็นเช่นนี้ต่อไปโดยไม่มีวันจบ ส่วนประเทศขนาดเล็กที่ไม่ได้เข้าร่วมขึ้นอยู่กับขั้วมหาอำนาจใดเลย ต้องตกอยู่ในสภาวะยากไร้ขาดแคลน มีการต่อสู้แย่งชิงและเกิดสงครามภายในประเทศขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในยุคแห่งความวุ่นวายสับสนเช่นนี้ องค์กรลับนาม เซเลสเชียลบีอิง ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อการต่อต้านและหยุดยั้งสงครามทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นในโลก โดยมีคติว่า "เราจะหยุดสงครามด้วยสงคราม" โดยใช้อาวุธที่ใช้เตาพลังงานแสงอาทิตย์ GN ไดรฟ์ นาม "กันดั้ม" ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าอาวุธในปัจจุบัน เพื่อการดำเนินแผนการณ์ตามอุดมการณ์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
-
กันดั้มดับเบิลโอ ภาค 2 GUNDAM OO SS
- ปีคริสต์ศักราช 2312 ภายหลังสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเซเลสเชียลบีอิงกับกองกำลังสามขั้วอำนาจโลก เหล่าขั้วอำนาจได้รวมตัวกันก่อตั้งสหพันธ์โลกขึ้นมา ซึ่งมีกองกำลังของตนเองเพื่อความมั่งคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในโลก และได้มีการก่อตั้งกองกำลังอิสระนามว่า A-laws ซึ่งมีหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาความสงบเรียบร้อยของโลกใบนี้ หากแต่เบื้องหลังนั้น A-laws เป็นกำลังที่จะกำจัดผู้ที่ขัดขืนต่อต้านสหพันธ์โลกด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมและเด็ดขาด เหล่าผู้คนที่ไม่พอใจต่อการกระทำนี้จึงรวมตัวกันก่อตั้งกองกำลังต่อต้านในนาม "คาตารอน" (Kataron) ขึ้นมาเพื่อต่อสู้ ทำให้โลกยังไม่อาจจะพบสัญญาณแห่งความสงบสุขได้เลย และภายใต้ความสับสนวุ่นวายที่กำลังคุกรุ่นอยู่ตอนนี้นั้น กองกำลังเซเลสเชียลบีอิงซึ่งได้รับการฟื้นฟูขั้นใหม่ได้พร้อมที่จะแสดงตนเองเพื่อยับยั้งสงครามครั้งใหม่นี้อีกครั้ง
โมบิลสูทกันดั้มยูนิคอร์น
สามปีหลังจากที่ชาร์ อัสนาเบิ้ลได้หายสาปสูญไปพร้อมกับอามุโร่ หรือในภาค โมบิลสูทกันดั้ม : ชาร์ เคาน์เตอร์ แอทแทค Vist foundation องค์การรายหนึ่ง ได้ครอบครองกล่องของ ลาพลาส มาโดยบังเอิญ แต่ผู้นำของ Vist foundation รุ่นที่สอง กลับจะต้องการส่งกล่องของลาพลาสให้กับพวกนีโอซีอ้อน โดยได้เชิญทั้งฝ่ายสหพันธ์และนีโอซีอ้อนมาร่วมการประชุมเพื่อมอบกล่องของลาพลาส แต่ เจ้าหญิงแห่งเนโอ ซีออน มิเนว่า ซาบี้ซึ่งได้ใช้ชื่อปลอมว่า Audrey Burne และแอบติดมากับกองยาน ได้พยายามที่จะบอกให้ Vist foundation ให้หยุดการกระทำ มันอาจจะนำมาซึ่งสงครามครั้งใหญ่ แต่สถาณการกลับแย่ลง เมื่อกองทัพสหพันธ์ได้บุกโจมตี เพื่อที่จะชิง กล่องของลาพลาสมาไว้ ในขณะนั้นเอง บาร์นาช ลิงก์ ได้บังเอิญช่วยมิเนว่าไว้ โชคชะตาชิขิตให้เขาต้องมาพัวพันกับสงครามเนโอซีออน ครั้งที่สาม และการกลับมาของ ฟูล ฟรอนทัล ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า การกลับมาของชาร์ ทำสงครามครั้งสุดท้ายกับสหพันธ์โลก
โมบิลสูทกันดั้มดับเบิลโอ เดอะมูฟวี่: การตื่นของผู้บุกเบิก
Mobile Suit Gundam 00 the Movie: A Wakening of the Trailblazer)
โมบิลสูทกันดั้มดับเบิลโอ เดอะมูฟวี่: การตื่นของผู้บุกเบิก เป็นภาพยนตร์อะนิเมะซึ่งมีเนื้อหาต่อเนื่องจากอะนิเมะทางโทรทัศน์ชุดโมบิลสูทกันดั้มดับเบิลโอ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการต่อสู้ของกลุ่มองค์กรติดอาวุธเอกชน "เซเลสเชี่ยล บีอิ้ง" ในช่วง 2 ปีหลังจากจบเหตุการณ์ในภาคโทรทัศน์ โดยเป็นการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน ซึ่งถูกเรียกชื่อว่า "ELS" นับได้ว่าเป็นซีรีส์กันดั้มชุดแรกที่มีเนื้อหากล่าวถึงสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว
กันดั้มเอจ GUNDAM AGE
เป็นเวลากว่าร้อยปีมาแล้ว ที่มนุษย์เริ่มต้นใช้ชีวิตในอวกาศ จนกระทั่ง ปี A.G. 101 ศัตรูลึกลับ UE (Unknown Enemy) ได้โจมตีโคโลนี่ "แองเจิล" จนล่มสลาย เหตุการณ์ในวันนั้นต่างก็เรียกขานกันว่า "วันแห่งการล่มสลายของนางฟ้า" และสงครามก็ได้เริ่มขึ้น
ใน ปี A.G. 108 ฟลิท อาซึโนะ เด็กหนุ่มวัย 7 ปีได้สูญเสียแม่ของเขาที่โคโลนี่ "โอวาน" ในเหตุการณ์ที่ถูก UE โจมตี แม่ของเขาได้มอบ AGE Device ซึ่งได้บรรจุข้อมูลและแบบแปลนของโมบิลสูทให้ตำนานที่มีนามว่า "กันดั้ม" ไว้ เขารอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้น และย้ายมาพักอาศัยอยู่ที่โคโลนี่ "โนร่า" กับ เอมิลี่ อาโลอิเพื่อนสมัยเด็กของเขา พร้อมทั้งใช้แปลนที่มาพร้อมกับ AGE Device เพื่อสร้างกันดั้มขึ้นมา
7 ปีต่อมาใน ปี A.G. 115 ขณะที่เขากับเอมิลี่ กำลังชมระบบท้องฟ้าจำลองของโคโลนี่ UE ก็บุกจู่โจมโนร่า โมบิลสูทของกองทัพไม่สามารถรับมือได้ ความหวังเพียงอย่างเดียวก็คือ โมบิลสูทที่สร้างจากตำนาน AGE-1 กันดั้ม เอจ-1 เท่านั้นและนี่คือจุดเริ่มต้นของสงครามที่จะดำเนินรวบ 100 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น